Loading...



แยกขยะอินทรีย์

วิธีลดโลกร้อนที่ง่ายที่สุด แต่ทรงพลังที่สุด

การแยกขยะอินทรีย์: วิธีง่ายที่สุดที่ทุกบ้านทำได้

การแยกขยะอินทรีย์เป็นหนึ่งในวิธีลดโลกร้อนที่ง่ายที่สุด แต่ทรงพลังที่สุด เพราะ “ขยะเศษอาหาร” คือแหล่งกำเนิดก๊าซมีเทนปริมาณสูง ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่รุนแรงกว่า CO₂ หลายสิบเท่า ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ขยะอินทรีย์คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณขยะทั้งหมดในครัวเรือน นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่เราโยนเศษอาหารลงถุงดำแล้วนำไปทิ้งรวมกับขยะอื่นๆ ขยะเหล่านั้นจะถูกฝังกลบในพื้นที่ที่ไร้ออกซิเจน กระบวนการย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจนนี้เองที่ทำให้เกิดก๊าซมีเทนปริมาณมาก เมื่อผสมรวมกับก๊าซอื่นๆ ในบ่อขยะ จึงกลายเป็นต้นเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อนที่ทุกคนมีส่วนทำให้เกิดโดยไม่รู้ตัว

การแก้ปัญหานี้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรยุ่งยาก เพียงแค่เริ่ม “แยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป” ก็สามารถลดการเกิดก๊าซมีเทนได้ทันที หากเรานำเศษอาหารไปจัดการด้วยวิธีที่ถูกต้อง เช่น การทำปุ๋ยหมัก การหมักด้วยน้ำหมัก EM หรือการใช้ถังหมักแบบแห้ง เศษอาหารจะย่อยสลายด้วยกระบวนการที่ควบคุมได้มากกว่า ไม่กลายเป็นภาระให้บ่อขยะ และไม่ผลิตก๊าซมีเทนในปริมาณสูงเหมือนการฝังกลบตามปกติ การทำปุ๋ยหมักคือการเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็นทรัพยากรใหม่ โดยใช้จุลินทรีย์ช่วยย่อยแบบที่มีออกซิเจนร่วมด้วย ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เล็กน้อยแทนที่จะเป็นก๊าซมีเทนซึ่งรุนแรงกว่า นอกจากนี้กระบวนการหมัก EM ยังช่วยย่อยสลายเศษอาหารอย่างรวดเร็ว กลายเป็นน้ำหมักหรือปุ๋ยที่ใช้กับต้นไม้ได้จริง ลดกลิ่น ลดแมลง และลดการเกิดของเสียสะสมตามพื้นบ้านและถังขยะ

เมื่อเศษอาหารถูกนำไปหมัก ทุกกิโลกรัมของขยะอินทรีย์ที่ไม่ต้องไปลงหลุมฝังกลบ เท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ หลายงานวิจัยระบุว่าในบ่อฝังกลบ ขยะอินทรีย์ 1 กิโลกรัมสามารถปล่อยก๊าซมีเทนได้ถึงระดับที่เทียบเท่ากับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าสิบเท่า การแยกเศษอาหารออกมาหมักที่บ้านจึงถือเป็นการ “ตัดตอนแหล่งกำเนิดมีเทน” ตั้งแต่ต้นทาง และหากคนหนึ่งคนทำได้ บ้านหนึ่งหลังทำได้ ชุมชนหนึ่งทำได้ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงจะมีมากอย่างคาดไม่ถึง เพราะต้นทางของปัญหาถูกจัดการตั้งแต่ขยะยังไม่ถูกขนออกจากบ้าน

นอกจากช่วยลดโลกร้อนแล้ว การจัดการขยะอินทรีย์ยังทำให้ปริมาณขยะรวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ถังขยะเบาลง มีกลิ่นน้อยลง แมลงวันลดลง และทำให้รอบบ้านสะอาดขึ้นทันที เพราะขยะที่ทำให้เกิดกลิ่นและความสกปรกส่วนใหญ่คือเศษอาหารเกือบทั้งหมด การแยกขยะอินทรีย์จึงเป็นประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม ต่อสุขภาพ และต่อคุณภาพชีวิตในบ้าน อีกทั้งปุ๋ยหมักที่ได้ยังสามารถนำไปใช้ปลูกต้นไม้ เลี้ยงดิน และทำให้สวนหรือกระถางในบ้านเติบโตแข็งแรงแบบปลอดสารเคมี เป็นการหมุนเวียนทรัพยากรที่ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีซึ่งมีต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมสูงเช่นกัน

สิ่งสำคัญคือ การเริ่มแยกขยะอินทรีย์ไม่ต้องใช้เงินมาก ไม่ต้องใช้พื้นที่ใหญ่ และไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ ชามเล็กๆ ถังเก็บเศษอาหาร หรือถังหมักแบบง่ายๆ ก็เพียงพอแล้ว หลายครอบครัวเริ่มจากการเก็บเศษผัก เปลือกผลไม้ เศษอาหารสด ลงถังหมัก EM แบบเปิดฝา วันละเล็กละน้อย เมื่อเต็มก็หมักทิ้งไว้หนึ่งถึงสองสัปดาห์ ก็จะได้ปุ๋ยน้ำและปุ๋ยแห้งที่นำไปใช้ได้จริง แม้กระทั่งคนอยู่คอนโดก็ทำได้ เพราะถังหมักขนาดเล็กไม่ส่งกลิ่นรบกวน การเริ่มต้นเพียงครั้งเดียวจะสร้างพฤติกรรมใหม่ที่ยั่งยืน และช่วยลดภาระขยะของเมืองได้อย่างมาก

เมื่อเรามองลึกลงไป การแยกขยะอินทรีย์อาจเป็นเพียงการกระทำเล็กๆ ในบ้าน แต่มีผลกระทบใหญ่ต่อสภาพภูมิอากาศของโลก เพราะมันลดก๊าซมีเทนที่เป็นตัวการหลักของภาวะโลกร้อนอย่างรวดเร็ว และยังสร้างคุณค่าจากของเสียให้กลายเป็นทรัพยากร นี่คือหนึ่งในวิธีรักษ์โลกที่ง่ายที่สุด ประหยัดที่สุด และเห็นผลจริงที่สุดที่ทุกบ้านสามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้ เพียงแค่เริ่มแยกเศษอาหาร โลกก็เริ่มเย็นลงได้แล้ว

 



please share with your friends: