ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้พลาสติกส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและมีให้เห็นเห็นมากขึ้นทุกปีโดยเฉพาะขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง มีจำนวนหลายล้านตัน มีการคัดแยกและนำกลับมาใช้เพียง 19% ของขยะทั้งหมด ซึ่งยังมีบางส่วนที่ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
คุณสมบัติของพลาสติกเป็นที่รู้กันว่ามีความยืดหยุ่นสามารถขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ แต่การย่อยสลายเองตามธรรมชาตินั้น ใช้เวลานานนับร้อยปี จึงมีการกำจัดขยะพลาสติกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเผาด้วยความร้อน การขัดถู ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น หรือแม้แต่แสงยูวีเองก็ตาม ซึ่งพลาสเหล่านี้ไม่ได้หายไปร้อยเปอร์เซ็น แต่เป็นการเปลี่ยนสภาพกลายไปเป็นสารพิษในชั้นบรรยากาศ รวมถึงลดขนาดลงจากชิ้นใหญ่กลายเป็นชิ้นเล็ก ที่เรียกว่าไมโครพลาสติกนั่นเอง
ไมโครพลาสติกนั้นแพร่กระจ่ายในสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ ปนเปื้อนในน้ำ ดิน และสิ่งมีชีวิตเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะต่อสัตว์น้ำ และแพงก์ตอน รวมถึงงานวิจัยใหม่ๆที่พบไมโครพลาสติกในร่างกายมนุษย์ เนื่องจากได้รับไมโครพลาสติกทั้งทางตรง และทางอ้อมจากการอุปโภค บริโภค อาหารและเครื่องดื่มบางชนิด ที่ปัจจุบันพบการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น น้ำตาล เกลือ น้ำดื่ม น้ำผึ้ง น้ำประปา รวมถึงการรับประทานอาหารทะเล เป็นต้น
ดังนั้นเราจึงควรหันมาใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน โดยการลดการใช้พลาสติก เลิกใช้พลาสติกแบบครั้งเดียว นำกลับมาใช้ซ้ำ นำไปรีไซเคิล รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการลดใช้ปริมาณพลาสติก เพื่อเป็นการช่วยโลกอีกทาง