Loading...



อุตสาหกรรมสะอาด

ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานลม100%

โรงงาน BMW ในเม็กซิโก ต้นแบบอุตสาหกรรมสะอาดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังลม 100%
ในขณะที่โลกกำลังเร่งหาทางออกจากวิกฤตโลกร้อนและพลังงานฟอสซิล โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งยังต้องเผชิญกับโจทย์ใหญ่ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการผลิต แต่มีโรงงานแห่งหนึ่งที่สามารถ “ทำได้จริง” และกลายเป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมยุคใหม่ นั่นคือโรงงาน BMW ในเมืองซานลุยส์โปโตซี (San Luis Potosí)ประเทศเม็กซิโก เปิดดำเนินการในปี 2019
เป็นโรงงานประกอบรถยนต์ของ BMW Group ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง มีกำลังการผลิตสูงสุดประมาณ 175,000 คันต่อปี
ผลิตรุ่นยอดนิยม เช่น BMW Series 3 สำหรับส่งออกไปทั่วโลก สิ่งที่ทำให้โรงงานแห่งนี้แตกต่างจากโรงงานอื่นๆ คือ การใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดจากกังหันลม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก
ขับเคลื่อนด้วยพลังงานกังหันลม 100%
BMW San Luis Potosí ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดจาก ฟาร์มกังหันลมในรัฐ Oaxaca ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านพลังงานลมสูงที่สุดแห่งหนึ่งในเม็กซิโก การทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบระยะยาว (Power Purchase Agreement - PPA) กับผู้ผลิตไฟฟ้าจากลม ช่วยให้โรงงานได้รับไฟฟ้าจากแหล่งหมุนเวียนโดยตรง ไม่ต้องพึ่งไฟฟ้าจากระบบที่ยังมีส่วนผสมของเชื้อเพลิงฟอสซิล
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้
ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 60,000 ตันต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 1 ล้านต้น ลดต้นทุนระยะยาว จากการควบคุมราคาพลังงานที่ไม่ผันผวนเหมือนน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ เสริมภาพลักษณ์ BMW ในฐานะแบรนด์ยานยนต์ที่มุ่งสู่ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Carbon Neutral) อย่างจริงจัง
ความสำเร็จของโรงงาน BMW ในเม็กซิโก ไม่ได้มีผลเฉพาะกับแบรนด์ BMW เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์และโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วโลก ว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดสามารถทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Ford, GM, Apple, และ Google ต่างเริ่มทำตามแนวทางนี้ โดยจับมือกับผู้ผลิตพลังงานสะอาด หรือแม้แต่ตั้งฟาร์มกังหันลมและแสงอาทิตย์ของตัวเอง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน
โรงงาน BMW ในเม็กซิโก เป็นตัวอย่างชัดเจนของการใช้ พลังงานกังหันลม 100% ในภาคอุตสาหกรรมอย่างได้ผล ไม่เพียงช่วยลดมลพิษและต้นทุน แต่ยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ในอนาคตอันใกล้ โรงงานอุตสาหกรรมที่จะอยู่รอดได้ ไม่ใช่แค่ผลิตเก่งหรือเร็วที่สุด แต่ต้อง "สะอาด" และ "ยั่งยืน" ที่สุดด้วย

 



please share with your friends: