มีหลายข้อดีที่สามารถส่งผลดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงการสร้างรายได้และลดภาระงบประมาณ ดังนี้
1. ลดปริมาณขยะต้นทางและสร้างสุขอนามัยที่ดี:
การจัดการเศษอาหารอย่างเหมาะสมช่วยลดการปนเปื้อนของขยะเปียกกับวัสดุและของเหลือใช้อื่นๆ ทำให้กระบวนการคัดแยกขยะสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยให้สภาพแวดล้อมในชุมชนสะอาดและมีสุขอนามัยดีขึ้น
2. เพิ่มรายได้จากการแยกขยะ:
ขยะที่ไม่ปนเปื้อนสามารถนำไปขายที่ธนาคารขยะ (หรือศูนย์รีไซเคิล) ซึ่งเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติมสำหรับชุมชน
3. ลดภาระงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น:
การจัดการขยะเศษอาหารที่ดีช่วยลดความจำเป็นในการเก็บขนและจัดการขยะ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้สามารถนำงบประมาณที่เหลือไปใช้ในโครงการที่สำคัญอื่นๆ
4. ได้รับสารบำรุงดินหรือปุ๋ยหมัก:
เศษอาหารสามารถนำมาใช้ทำปุ๋ยหมัก ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน แต่ยังสามารถใช้ในครัวเรือนเพื่อปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ลดรายจ่ายในครัวเรือน หรือสร้างรายได้จากการขายผลผลิต
5. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก:
การจัดการขยะเศษอาหารอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเน่าเสียในหลุมฝังกลบ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
โดยรวมแล้ว การจัดการขยะเศษอาหารอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะและภาระงบประมาณ แต่ยังสามารถสร้างรายได้และส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีในชุมชน
การจัดการขยะและการแปรรูปขยะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งไปในหลุมฝังกลบ และยังสามารถสร้างคุณค่าใหม่จากขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขยะโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีวิธีการจัดการและแปรรูปที่แตกต่างกัน